ผมได้ผัวเป็นหนุ่มช่างกล
สวัสดีครับเพื่อนๆ ช่วย GayStory.StoryIncst.com ผมจะขอเล่าเรื่องรักครั้งแรกตอนผมขึ้นพาณิชย์ปี 1 ก็แล้วกันนะครับ อย่างที่บอกแหละครับผมอยากเรียนเก่งเหมือนพี่เอ็กซ์ซึ่งเป็นน.ศ.วิศวฯไปแล้ว แต่หัวผมมันไม่ยอมแล่นเอาซะเลย จริง ๆแล้วผมพอรู้เรื่องช่างจิปาถะอยู่บ้าง แต่หน้าตาผมมันไม่ให้เลยก็เลยไม่ได้เรียนช่างกล และที่บ้านก็ค้าขายด้วย จบ ม.3 แล้วก็เลยเลือกมาเรียนพาณิชย์แทน
ก่อนมาเรียนเพื่อนๆ ก็แซวเหมือนกันครับประเภทว่า “สาวพาณิชย์สวยนะเว้ย… ง่ายดีด้วย” หรือ “ตุ๊ดเยอะนะมึง ระวังไว้ให้ดีเหอะ” อะไรประมาณนี้ผมไม่ตั้งใจจะว่าใครนะครับ เพียงแต่เพื่อนมันพูดมาอย่างนั้น พูดกันเล่น ๆ เท่านั้นเอง แต่คำเตือนทั้งหมดนี้กลับไม่มีอันไหนที่ตรงกับกรณีของผมเลย
คืออย่างนี้ครับ…โรงเรียนพาณิชย์ที่ผมไปเรียนเนี่ยอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไหร่ นั่งรถต่อเดียวก็ถึงหรือจะนั่งเรือด่วนก็ได้ พอผมเข้าไปก็ป๊อปพอสมควรเพราะหน้าตาดี ดีแค่ไหนเหรอครับ…ก็ไม่อะไรมากแค่ตาหวาน ๆ ปากแดง ๆ ผิวขาว ๆ และก็คิ้วเข้ม ๆ เท่านั้นเอง ผมเพิ่งมารู้ตอนหลัง ๆ นี่แหละว่าผมโตมาแล้วหน้าคล้ายพี่เอ็กซ์ (หรือเพราะไปรับเอาเชื้อพันธุ์ของแกมาก็ไม่รู้)
สาว ๆ ก็ปรายตาให้ผมอยู่หลายคน กระเทยก็เยอะครับที่สำคัญเพื่อน ๆ ผู้ชายที่ทำท่าว่าสนใจผมก็มีเหมือนกัน แต่ต้นตอของเรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ในโรงเรียนของผมหรอกครับ มันอยู่ที่โรงเรียนช่างกลที่อยู่ติดกันใช้รั้วเดียวกัน ข้างๆ นี่ต่างหาก
เย็นวันนึงหลังจากเลิกเรียนแล้วผมก็ออกมาหาอะไรกินกับเพื่อนๆ ที่ร้านข้าง ๆ โรงเรียน จนกระทั่งเย็นเราก็ได้ยินเสียงเอะอะแว่วมาจากที่ไกลๆ ได้ยินคนที่อยู่หน้าร้านพูดกันว่าเด็กนักเรียนตีกัน พวกผมก็ไม่มีใครถนัดเรื่องหมัดมวยซักคนจึงตกลงใจว่าจะกลับบ้านดีกว่า เพราะอยู่แถวนี้ต่อไปอาจเจอลูกหลงก็ได้… ก็ขายาวเหมือนกันนี่ครับ ผมกับเพื่อนจึงเดินออกจากร้านมา
พอผมก้าวขาพ้นประตูร้านก็ถูกชนเข้าอย่างจังจนเซแซดๆ และล้มลงเลย ปรากฏว่าไอ้คนที่ชนผมเป็นเด็กช่างกลข้าง ๆ นี่แหละครับ มันก้าวเข้าประชิดตัวผมแล้วตะเบ็งเสียงถามเลย “ไม่มีตารึไงวะ อยากไปเกิดใหม่เหรอมึง” ผมเริ่มหน้าเสียแล้วครับเพื่อน ๆ ก็เหมือนกัน แต่ในวินาทีนั้นเพื่อนของไอ้หมอนั่นที่ยืนอยู่ข้างหลังก็สบตากับผมโดยบังเอิญก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาห้ามเพื่อน
“เฮ้ย! ไปเหอะ!” พูดสั้นจังครับ แต่ก็ได้ผลชะงัดเหมือนกัน ไอ้ตัวหาเรื่องยอมกลับไปแต่โดยดีก่อนเดินไปเขายังสบตาและยิ้มเล็ก ๆ ให้ผมด้วย ดูเท่จังเลยครับ หลังจากวันนั้นมาผมก็ไม่ได้ใส่ใจอีก จนกระทั่งผมรอรถกลับบ้านในวันนึงซึ่งเป็นตอนค่ำแล้ว ผมก็เห็นเขามารออยู่ด้วยเหมือนกันแต่คราวนี้มาคนเดียวนะครับ ตอนนั้นผมยังเฉย ๆ เพราะไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายมานานแล้วแต่ก็ยอมรับว่าเขาดูเท่ดี คงจะอายุราว ๆ 18-19 ได้แหละครับ
พอรถเมล์มาผมก็ขึ้นรถ ปรากฎว่าเขาก็ขึ้นสายเดียวกับผมเลย พอดีมีที่ว่างอยู่ข้างหลังผมจึงไปนั่งเขาก็ตามมานั่งด้วย นั่งไปสักพักเขาก็คอยสบตาผมอยู่ตลอด พอผมหันไปมองเขาก็ยิ้มให้ ไอ้ผมก็ไม่ใช่ไม่เคย เพียงแต่ยังไม่แน่ใจก็เลยได้แต่นั่งใจเต้นตุบๆ อยู่อย่างนั้น พอรถถึงป้ายผมก็ลงพอหันไปดูเขาก็ลงป้ายเดียวกับผมอีก ผมไม่แสดงออกนะครับ ผมก็เลยต้องทำเฉย ๆ เหมือนไม่มีอะไร
พอสบตาเขาและเขายิ้มให้ผมก็เลยยิ้มตอบออกไปแค่นั้น แต่พอออกเดินเขาก็วิ่งเข้าประชิดทันที “เดินไปส่งได้ไหมครับ” ผมงงเลยแหละไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูด แต่พอคิดว่าผมเด็กกว่าเขา 3-4 ปี ก็คงทำให้เขากล้าอยู่เหมือนกัน “ไม่ต้องหรอกครับ” ผมแสยะยิ้มตอบก่อนถามกลับเพื่อกลบเกลื่อน “บ้านอยู่แถวนี้เหรอ?” “เปล่าหรอกครับตั้งใจมาส่งปิง” ผมหันขวับไปมองหน้าเขาอีกครั้งสงสัยว่าเขารู้ชื่อผมได้ยังไง แต่ก็ได้แค่มองหน้าเพราะไม่กล้าถาม
“ไม่ต้องมาส่งหรอก ไม่ชอบ” จริง ๆ แล้วผมกลัวมากกว่า แต่เขากลับพูดเรียบ ๆ ว่า “ปิงห้ามผมไม่ได้หรอก” ผมจึงไม่พูดอะไรอีกเดินจ้ำอ้าวๆ กลับบ้านโดยไม่หันไปมองเขาอีกเลย มันก็แปลกแหละครับแต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงที่จะไม่ให้เขามารับผมที่บ้านทุกเช้าได้ แถมยังออกค่ารถเมล์ให้ผมอีก ไอ้เซ็กส์กับผู้ชายน่ะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มีผู้ชายเทียวรับเทียวส่งยังงี้เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอนี่แหละครับ แถมยังเป็นเด็กช่างกลซะอีกเลยทำให้ผม “เสีย self” ไปเหมือนกัน
ตลอดเวลาสองอาทิตย์เป็นอยู่อย่างนี้โดยที่เราไม่ได้พูดคุยกันแม้แต่คำเดียว ต่อมามีผู้หญิงโรงเรียนเดียวกับผมแต่อยู่ปี 2 เข้ามาต่อว่าผมที่ไปแย่งแฟนเขา ก็คือนายคนนั้นนั่นแหละครับ ผมงี้งงมากเลย แต่ก็ขำด้วยเพราะไม่เคยเจอมาก่อน แต่จากเหตุการณ์นี้ก็เลยรู้ว่าเขาชื่อไปพ์ เย็นนั้นผมต้องอยู่จนค่ำเกือบ 4 ทุ่มเพราะต้องเตรียมอุปกรณ์กีฬาสีกับเพื่อน ๆ
พอเสร็จแล้วเราหาอะไรกินกันก่อนแล้วจึงแยกย้ายกันกลับแต่พอจะกลับจริง ๆ สมุดจดของผมก็ไม่รู้หายไปไหนเสียแล้วผมจึงต้องกลับเข้าไปดูในโรงเรียนก่อน ผมเดินกลับเข้าไปในซอยโรงเรียนแต่พอถึงหน้าโรงเรียนก็มีเสียงหนึ่งเรียกผม “หาสมุดอยู่เหรอ?” ผมหันกลับไปดู เป็นไปพ์นั่นเองเขารู้ไดัยังไง? “อยากได้ก็ตามมาเอา ถ้าไม่เอาก็ไม่รับผิดชอบนะ” ผมกลัว ๆ อยู่เหมือนกันไม่รู้เขาจะมาไม้ไหนก็เลยบอกเขาไป
“ถ้าเห็นก็เอาคืนมาเถอะ ผมอยากกลับบ้าน” ไปพ์ยิ้มกว้างจนดูน่ากลัว เขาเข้ามาจับต้นแขนผมไว้แล้วดึงผมขึ้นไปซ้อนมอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นของใครก็ไม่รู้ เขาสตาร์ทรถและบอกให้ผมจับแน่นๆ แล้วเขาก็ออกรถไป เขาขับเร็วมากและกระชากด้วยจนผมต้องกอดเอวเขาไว้แน่นเพราะซ้อนก็ไม่ค่อยจะเป็น จนมาถึงแถวๆ บางโพซึ่งก็อยู่ก่อนถึงบ้านผมไม่เท่าไหร่ ไปพ์ก็จอดรถที่หน้าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง
เขาเอารถเข้าไปจอดในบ้านและบอกให้ผมตามเขาเข้าไป พอเข้าไปถึงในบ้าน ไปพ์ก็เปิดไฟเพียงสลัว ๆแล้วดึงต้นแขนผมไปที่ห้องถัดกันซึ่งมีโซฟาอยู่ แต่เขากลับผลักผมนอนลงกับพื้น “จะทำอะไรน่ะ” ความกลัวมันวิ่งขึ้นมาจุกคอหอย เขาไม่ตอบแต่ถอดเสื้อออกแล้วปลดแข็มขัดและซิปกางเกงแล้วก้มลงมาคร่อมตัวผม “ถามทำไม เกลียดผมมากใช่ไหม?” โอย… ตูจะบ้าไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย…
“ปิงอย่าดิ้นแล้วกันเพราะพี่โมโหร้าย…หอมจัง” เริ่มเปลี่ยนสรรพนาม ประโยคหลังพูดตอนที่ก้มจมูกมาสูดคอผม ไปพ์นั่งทับขาผมไว้ ส่วนมือก็ยึดข้อมือผมไว้กับพื้น ผมเสียววาบที่ต้นคอเมื่อเขาซุกจมูกลงไป ใจลึก ๆ ก็อยากบอกว่า “รอมานานแล้ว” แต่อีกใจก็รู้สึกกลัวมาก ๆ เหมือนกัน ผมดิ้นหนี… ไปพ์กดข้อมือผมไว้อีกแล้วส่งเสียงดุ “บอกแล้วไงว่าอย่าดิ้น! ถ้าพี่ทำเจ็บขึ้นมาอย่าหาว่าไม่เตือนนะ!”
จำได้ว่าผมเริ่มร้องไห้ปกติผมไม่ใช่คนร้องง่าย ๆ แม้แต่เวลากลัวมาก ๆ แต่มันมีอะไรลึก ๆ กว่านั้น ไปพ์ฉีกกระดุมเสื้อของผมจนขาดหมดแล้วกระชากเข็มขัดผมจนหลุด ถึงเขาจะบรรจงปลดตะขอกางเกงให้ผม มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี เขาดึงทั้งกางเกงนักเรียนและกางเกงในผมลงไปพร้อมๆ กันทำให้เจ้าหนูรุ่นหนุ่มของผมมันเผยตัวอยู่ต่อหน้าเขามันยังไม่แข็งหรอกครับ และผมก็ยังไม่อยากให้มันแข็งด้วยทั้งอายและทั้งโกรธเลย
“ตัวแค่นี้ ทำไม…” เขายังนั่งทับผมอยู่ สายตาก็สำรวจพวงอวัยวะของผม เขาคงจะพูดว่า “ทำไมถึงควยใหญ่” แหละครับ อันที่จริงมันไม่ได้ใหญ่มากแต่เพราะผมตัวเล็กมากกว่า (เมื่อเทียบกับเขา) ไปพ์ถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือยเปล่าแล้วก้มลงจูบไซร้ผมไปทั่วตัวจริง ๆ แค่เห็นร่างเปลือยเปล่าของเขาเจ้าหนูของผมมันก็ขึ้นแล้วล่ะครับ แถมลีลาการไซร้ของเขากลับนุ่มนวลแผ่วเบาผิดกับเมื่อสักครู่เป็นคนละคนเลย
และคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเขาจะยอมใช้ปากอมควยของผมด้วย ถึงเวลานี้ผมก็หน้ามืดล่ะครับ เขาดูดเข้าผมก็เด้งสวนเลยจนเขาช้อนก้นผมไว้แล้วดันมันเข้าหาปากของเขาเสียเอง ไม่นานเลยที่ผมหลั่งออกมาในปากเขาและเขากลืนมันจนหมด หลังจากนั้นก็เป็นทีของผมที่ต้องทำให้เขาบ้าง ของเขาก็แบบผู้ใหญ่แหละครับ ราว 6 นิ้วเศษ ก็คงได้เด้งปากผมอย่างเมามัน
พักเดียวเขาก็เปลี่ยนที่มาอยู่ด้านหลังผมซึ่งผมก็รู้ทันทีจึงขยับตัวหนี “อย่านะไปพ์ ผมไม่เคย…” ผมยังไม่เคยถูกใครเล่นประตูหลังหรือเล่นประตูหลังใครมาก่อนเลย” “ไม่เคยก็ลองดูสิ” “ไม่” ผมกลัวเจ็บจริง ๆ แต่ไปพ์ทำหน้าดุจนน่ากลัว เขากระชากตัวผมนอนคว่ำลงกับพื้นแล้วตามเอาแท่งทวนเปล่าเปลือยประกบประตูหลังผมโดยไม่มีอะไรขวางกั้น เขาดุนดันมันเข้ามาในขณะที่ผมก็บิดกายหนีเพราะมันไม่ปลอดภัยเลย
แต่เขากลับกดผมแน่นกับพื้นผมพยายามดิ้นแต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้เลย… ไปพ์แข็งแรงมาก หรือไม่ผมก็อ่อนแอเกินไป! เขาดันท่อนเนื้ออยู่นานแต่สุดท้ายมันก็เข้าไปทั้งฝืดๆ นั่นแหละครับ ผมสะดุ้งสุดตัวและร้องออกมาเสียงดัง “โอ๊ย! ไปพ์…ผมเจ็บ” ผมพยายามทำเสียงอ่อนเพื่อขอความเห็นใจเพราะยังไงผมก็สู้แรงเขาไม่ได้แน่ แต่เขาไม่พูดอะไรสักคำเพียงแต่ดันมันเข้าไปอีกลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ผมร้องจนหมดแรงจะร้องเพราะความเจ็บหน่วงที่ประตูหลัง
สักพักไปพ์ก็ช้อนร่างผมขึ้นอยู่ในท่าคลานอวัยวะเพศของเขายังฝังอยู่ในร่างผม แล้วเขาก็โยก… เขายกก้นเข้าออกส่งให้ท่อนทวนผลุบเข้าออกประตูหลังผมเป็นจังหวะ มันเข้าได้ไม่หมดหรอกครับแต่ก็เข้าไปกว่าครึ่งผมกัดฟันไม่ยอมร้องไห้ แต่ก็ทนไม่ได้เพราะความเจ็บปวดแบบสุดๆ ไปพ์เย็ดตูดอยู่นานก็กระตุกร่างและแตกในเข้ามาในร่างผมเต็มๆ ไม่มีล้น เพราะถูกท่อนยักษ์ของเขาอุดอยู่
เมื่อเขาถอนออกมาผมก็หมดแรง ไปพ์จับผมพลิกหน้าแล้วก้มลงไปจัดการกับของผมบ้าง ความโกรธที่มีอยู่จึงบรรเทาลงได้อย่างประหลาดในปากอุ่นๆ ของเขากับอีกไม่กี่นาทีต่อมา ความสามารถในการเก็บกลั้นน้ำเชื้อของผมดูจะหมดไปกับความบริสุทธิ์ด้วย ส่วนสำคัญจึงปล่อยให้น้ำกามขาวขุ่นวิ่งผ่านร่างออกมาเข้าสู่ปากของเด็กหนุ่มอีกครั้ง ผมหมดแรงและนอนพับอยู่กับพื้นห้องก่อนรับรู้ถึงจูบของเขาที่ริมฝีปาก
เขาจูบผมแผ่วเบาและนุ่มนวลก่อนเลื่อนมาจูบหน้าผากผมแล้วก็นอนกอดผมไว้อย่างนั้น ผมรู้สึกบอกไม่ถูก แม้จะชอบมีเซ็กส์กับผู้ชาย แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งอื่น ๆ ผมเกิดความรู้สึกบอกไม่ถูก รอแต่ให้เขาพูดอะไรออกมาสักคำ จนเวลาผ่านไปเนิ่นนานไปพ์ก็ไม่พูดอะไรกับผมเลยจนผมต้องขอไปห้องน้ำ เขาพาผมไปและทำความสะอาดร่างกายให้ผมด้วยจากนั้นจึงไปส่งที่บ้าน
หลังจากนั้นผมพยายามไม่เจอกับเขาอีกเพราะยังโกรธเขาอยู่มาก ผมออกจากบ้านแต่เช้าและเวลากลับก็กลับเรือด่วนซึ่งเขาคงไม่รู้ แต่ไม่นานเขาก็ตามผมเจอและพูดกับผมครั้งแรกหลังจากที่เรามีอะไรกันเมื่ออาทิตย์กว่า ๆ ที่ผ่านมา “ผมขอโทษนะปิง ผมแค่โกรธที่ปิงทำเหมือนไม่สนใจผมเลยทั้ง ๆ ที่ผู้หญิงก็ชอบผม… ผมเลยทำรุนแรงกับปิงแต่ผมชอบปิงจริง ๆ และอยากให้เราคบกัน…ได้รึเปล่า?”
เขามาหาผมหลายครั้งและหนักๆ เข้าพอผมไม่พูดด้วยเขาก็โมโห ดูท่าทางเขาจะโมโหร้ายจริง ๆ ครับ แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายผมเลย แถมยังรับส่งผมตลอด สุดท้ายเขาท้าจะชกกำแพงให้ผมดูเพื่อพิสูจน์ว่าเขาจริงใจกับผม (อะไรจะปานนั้น) แต่เขาก็ทำจริง ๆ ครับจนเลือดออกเต็มมือ ผมถึงใจอ่อนและยอมมีแฟนเป็นหนุ่มช่างกลแทนที่จะเป็นสาวพาณิชย์
เขาไม่เคยสัญญาว่าเขาจะเลิกโมโหร้ายแต่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เกือบสองปีมาแล้ว พี่ไปพ์ก็ไม่เคยใส่อารมณ์กับผมและยังเป็นพี่ชายที่แสนดีของผมตลอดมา… และผมก็รักเขาที่สุดในโลกเลย!